“... ขาดทุน คือ กำไร (Our loss is our gain) … การเสีย คือ การได้ ประเทศชาติก็จะก้าวหน้า และการที่คนอยู่ดีมีสุข เป็นการนับที่เป็นมูลค่าเงินไม่ได้...”จากพระราชดำรัสที่ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ที่ได้พระราชทาน แก่ตัวแทนของปวงชนชาวไทยที่ได้เข้าเฝ้าฯถวายพระพรเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระ ชนมพรรษา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2535  ณ ศาลาดุสิดาลัย พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

       เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น เป็นโปรโมชั่นมวย ที่อยู่ในวงการมวยโลกมายาวนานกว่า 20 ปี แต่เพิ่งมาสร้างแชมป์โลกคนแรกประดับค่ายจาก อำนาจ เกษตรพัฒนา  ที่ได้ครองแชมป์โลก IBF รุ่นฟลายเวท  และสร้างผลงานที่โด่งดังไปทั่ว ด้วยการเอาชนะ ซูซิหมิง นักชกเหรียญทองโอลิมปิคชาวจีน  แต่ก่อนหน้านั้น  เป้าหมายของเกียรติกรีรินทร์ ที่จะสร้างแชมป์โลก ไม่เคยทำสำเร็จได้เลย  แม้ว่านักชกในสังกัดจะมีโอกาสขึ้นชกชิงแชมป์โลกหลายคน เริ่มตั้งแต่ ฟ้าลั่น ศักดิ์กรีรินทร์, ฟ้าประกอบ รักเกียรติยิม, ฟ้าสั่ง พ.ธวัชชัย และ ล่าสุดก็คือ แท่งทอง คลองจันทร์ ที่มาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียก่อน

       เบื้องหลังของความสำเร็จของเกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น เกิดขึ้นมาจากน้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ว่า ขาดทุนคือกำไร  มาปฎิบัติและทำให้เกิดโครงการ "หนึ่งสมอง สองกำปั้น พกความมุ่งมั่น สร้างฝันให้เป็นจริง"   เป้าหมายของโครงการ หนึ่งสมอง คือการปั้นนักมวย ให้ประสบความสำเร็จเป็นแชมป์โลก ซึ่งการสร้างแชมป์โลก ไม่ใช่เรื่องที่จะสำเร็จได้โดยง่าย

       การเปิดโอกาสให้แฟนมวย มาสมัครเป็นนักมวย ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน และไม่รู้ว่า จะหาทางแจ้งข่าวให้แฟนมวยทราบได้อย่างไร ซึ่งโชคดีมากที่ได้รับความกรุณาจาก คุณชายพจน์ บก.มวยโลก ที่มาช่วยเป็นสื่อกลางแจ้งข่าวให้แฟนมวย ทราบจนมีผู้มาสมัครรับการคัดเลือกถึง 400 กว่าคน และได้คัดเลือกจนได้นักชกเข้าร่วมโครงการ 10 คน  มีการใช้เทรนเนอร์ชาวต่างประเทศ มาติวเข้มนักชกในโครงการ ซึ่งเก็บตัวฟิตซ้อมอยู่กับเกียรติกรีรินทร์ จนได้ผลิตของโครงการรุ่นแรก คือ  วัชรกฤษ เสนาหาญ เป็นแชมป์ IBF แพนแปซิฟิกรุ่นจูเนียร์ไลต์เวท แม้ว่า วัชรกฤษ จะไม่ได้เป็นแชมป์โลกอย่างที่ตั้งไว้ แต่ได้รับทุนการศึกษาต่อจนได้เรียนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

       ต่อมา เกียรติกรีรินทร์ ได้มีนักชกทีมชาติเข้ามาร่วมโครงการคนแรก คือ แท่งทอง คลองจันทร์ ที่ผลักดันจนกำลังได้รับโอกาสขึ้นชิงแชมป์โลก IBF แล้วแต่มาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิต และนักชกคนต่อมาคือ อำนาจ รื่นเริง

       ก่อนที่ผมจะได้พบกับ อำนาจ รื่นเริง ผมเคยชมการชกมวยของอำนาจในโอลิมปิค 2008 ที่ปักกิ่ง และแพ้คะแนนแบบค้านสายตา ผมได้ติดตามศึกษาประวัติชีวิตของเขาที่ผ่านประสบการณ์ชีวิตมาอย่างโชกโชน เคยเป็นอดีตแชมป์มวยไทย แต่ชีวิตหันเหจนต้องโทษ และกลับออกมาเป็น นักชกมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย

        ผมยังจำได้ดีเมื่อ  "พี่โจ้" พัลลภ ศรีไพลวัลย์ ผู้จัดการของ แท่งทอง คลองจันทร์  อดีตนักชกทีมชาติไทย ได้แนะนำผมให้รู้จักอำนาจ และแท่งทอง ได้ขอร้องให้ผมเป็นโปรโมเตอร์จัดขึ้นชกมวยสากลอาชีพครั้งแรก ร่วมรายการของแท่งทอง ในวันที่ 18 พ.ค. 2555 ที่ จ.นครราชสีมา

         อำนาจ ขอเริ่มต้นชกมวยสากลอาชีพไฟต์แรก ในวัย 33 ปี ถือว่าเป็นนักชกไทยที่เริ่มชกมวยสากลอาชีพด้วยวัยที่มากที่สุด  ในขณะที่นักมวยสากลจะเริ่มตัดสินใจแขวนนวมเมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไปแล้ว

       ผมมองเห็นภาพของ อำนาจ ที่เป็นตัวแทนนักกีฬาที่ทุ่มเททำหน้าที่รับใช้ประเทศชาติ และต้องการโอกาสครั้งสุดท้ายที่จะสร้างอนาคต หาเงินเลี้ยงดูครอบครัวและลูกที่ยังเล็ก ถึงแม้ว่าโอกาสที่สำเร็จนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากทีเดียว

       ผมปรึกษากับ พล.ต.ท.ดร.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ประธานบริษัทเกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น และ ดร.สมชัย หยกอุบล ประธานบริษัทเกษตรพัฒนา ที่สนับสนุนใช้ชื่อว่า อำนาจ เกษตรพัฒนา ที่ได้รับสร้างสรรค์อย่างเป็นขั้นตอน จ้างเทรนเนอร์มืออาชีพ มร.ฟรานซิสโก้ จาโร่ ชาวฟิลิปปินส์ มาทำหน้าที่ดูแลการฟิตซ้อมตั้งแต่เริ่มแรก  จัดหาสถานที่ฝึกซ้อมและเก็บตัว คู่ลงนวม โภชนาการและอาหารเสริม  และวางแผนจัดการไต่เต้าสู่บัลลังก์โลก IBF อย่างต่อเนื่องจนมีโอกาสได้ขึ้นชิงแชมป์เอเชียในไฟต์ที่ 8  ที่ จ.ราชบุรี และชกป้องกันแชมป์เอเชีย 3 ไฟต์ติดต่อกัน และใน 2 ครั้ง จัดขึ้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ที่เป็นบ้านเกิดของ พล.ต.ท.ดร.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว

       จนผลักดันให้ได้ขึ้นชิงแชมป์โลก IBF ที่ว่างรุ่นฟลายเวท กับ ร็อกกี้ ฟูเอนเตส นักชกฟิลิปปินส์ ที่มีเบื้องหลังที่น่าสนใจ อันที่จริง อำนาจจะต้องขึ้นชกชิงแชมป์โลกไฟต์บังคับกับ โมรูตี้ เอ็มทาเลเน่ แชมป์โลก IBF รุ่นฟลายเวท  แต่เอ็มทาเลเน่ขอสละตำแหน่งแชมป์โลก ก่อนที่จะถึงวันชก 2 อาทิตย์ ทำให้การชกชิงแชมป์โลกไฟต์บังคับต้องถูกยกเลิกไปทันที    ทำให้ต้องติดต่อให้  ร็อคกี้ ฟูเอนเตส  เดินทางมาชกชิงแชมป์โลกที่ว่างกับ อำนาจ ที่เมืองไทยแทน และในที่สุด อำนาจ ก็สามารถเอาชนะคะแนน ฟูเอนเตส ได้เมื่อ 22 มกราคม 2557 ที่ จ.นครราชสีมา  โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี รับเป็นประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขัน 

       จะเห็นได้ว่า กว่าที่เกียรติกรีรินทร์ จะสร้างแชมป์โลกคนแรกได้สำเร็จนั่น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หากแต่มีหลักยึดที่ว่า ขาดทุนคือกำไร ซึ่งหมายถึง การเสียหรือการขาดทุน จะมาสู่การได้หรือความสำเร็จนั่นเอง ถ้าเรายังไม่ท้อถอย และมุ่งมั่นที่จะเอาชนะอุปสรรค ฝ่าฝันปัญหาให้ได้ ความสำเร็จก็จะตามมาอย่างแน่นอน

ปวงข้าพระพุทธเจ้า ขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม รำลึก ในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้

ข้าพระพุทธเจ้า ดร.เอกรัฐ ไชยโชติช่วง

คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ นักมวย บริษัทเกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น จำกัด