"ปฐมศึก"บุกคว้า WBC ถึงแดนจิงโจ้ เมื่อเวลา 21.00 น.เสาร์ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา ปฐมศึก ปฐมโพธิ์ทอง นักชกในโครงการ “ปตท.พลังกำปั้นไทยเพื่อไทย”พร้อมด้วย มร.ไรอัน แมนตัน เทรนเนอร์คู่ใจชาวอังกฤษ เดินทางกลับมาถึงเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว หลังจากปฐมศึกบุกแดนจิงโจ้ไปชนะคะแนน ฮีท เอลลิส นักชกชาวออสซี่ถึงถิ่น คว้าแชมป์รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวทสภามวยโลก (WBC) เอเชีย มาครองสำเร็จงดงาม อย่างไม่เป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนน 96-94,96-94,และ 95-95 เมื่อวันศุกร์ 22 ก.ค.ที่สังเวียนมวยซันซายน์โรลเลอร์สเก๊ตเซ็นเตอร์ รัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลีย ทั้งนี้ปฐมศึกเผยด้วยสีหน้าเปี่ยมสุขว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ นายสรสิทธิ์ จงเจริญ อดีตผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครปฐม และ พล.ต.ต.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่มอบโอกาสให้เป็นนักชกสากลอาชีพตามแนวคิด “คืนคนดี สู่สังคม”ซึ่งปฏิบัติได้จริงของกรมราชทัณฑ์ กระทั่งเข้าร่วมในโครงการ“ปตท. พลังกำปั้นไทย เพื่อไทย”จนคว้าเข็มขัดแชมเปี้ยนเส้นแรกมาคาดเอว สัญญาว่าจะทำหน้าที่ต่อไปให้ดีที่สุด ขณะที่ มร.ไรอัน แมนตัน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาสองปีที่ตนเข้ามารับผิดชอบดูแลนักชกในโครงการนี้ด้วยความมุ่งมั่นทุมเท ถือว่าครั้งนี้รู้สึกภาคภูมิใจที่มีส่วนร่วมผลักดันปฐมโชคซึ่งมาจากผู้ต้องขังให้กลายเป็นนักชกที่สร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้กรมราชทัณฑ์และประเทศไทยได้ นอกจากนั้นยังนับเป็นเกียรติประวัติของตนในฐานะเทรนเนอร์ที่ถ่ายทอดเบสิก แท็กติกต่างๆให้จนประสบความสำเร็จในการไต่บันไดขั้นแรกสมกับที่ปฐมศึกเพียรพยายามและมุมานะฝึกซ้อมอย่างหนัก อย่างไรก็ตามปฐมศึกยังมีจุดบกพร่องหลายอย่างที่ต้องหาทางปรับปรุงแก้ไขแบบค่อยเป็นค่อยไปตามสเต็ปที่วางเอาไว้ ทางด้าน “จิมมี่” เอกรัฐ ไชยโชติช่วง โปรโมเตอร์ เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น ผู้จัดการที่ไปให้การต้อนรับถึงสนามบินสุวรรณภูมิระบุว่า ชัยชนะของปฐมศึกเป็นบทพิสูจน์ศักยภาพครั้งสำคัญที่น่าชื่นชมบนสังเวียนการแข่งขันระดับโลกและเป็นความสำเร็จอีกขั้นของหนึ่งนักชกในโครงการ “ปตท.พลังกำปั้นไทยเพื่อไทย”ปีที่ 2 ซึ่งกำลังดำเนินการสานต่อกันอยู่โดยได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยและเกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น ในการสานฝันดาวโรจน์มวยสากลอาชีพที่นำมาเจียระไนสร้างเป็นนักชกต้นแบบ และสนับสนุนเยาวชนไทยก้าวสู่บัลลังก์โลกสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศชาติภายใต้แบบแผนและมีเป้าหมายชัดเจนโดยวางคิวการฝึกซ้อมและขึ้นชกอย่างต่อเนื่องทำให้มีการพัฒนาทั้งสภาพร่างกายและจิตใจ จะเห็นได้ว่านักชกในโครงการนี้ต่างก็พัฒนาฝีมือดีขึ้นอาทิ ฟ้าใส บิ๊กโคล่า นักชกชาวไทยภูเขา,วัชรกฤษ เสนาหาญ นักชกปริญญาโท, รุสลี สาเมาะ ดาวรุ่งจากปัตตานี,สามารถเล็ก ชัยยงค์ยิม ดาวโรจน์จากสงขลา และ ฟ้าลั่นจูเนียร์ ศักดิ์กรีรินทร์ ทายาทอดีตแชมป์โลก “ฟ้าลั่น” เป็นต้น ตนเชื่อมั่นว่านักชกทุกคนจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติได้อย่างแน่นอน |