"ฟ้าใส" ป้องกัน IBF พบคู่ปรับ "ฟ้าลั่น" เมื่อเวลา 14.00 น.วันพุธ 2 มี.ค.ที่ผ่านมาที่ โรงแรมบางกอกพาเลส-ประตูน้ำ กทม. ดร.วิทูร กรุณา ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับ นายประดิษฐ์ หัสดี รองประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด , นายเอกราช ภู่อมร ,นายเอกชัย เหลืองสอาด และ ผู้แทนเครื่องดื่มบิ๊กโคล่า แถลงข่าวยืนยันความพร้อมสำหรับการจัด ศึกนนทบุรีสะท้านโลกซึ่งคู่นำรายการวางคิวให้ หมัดภูผาฟ้าใส บิ๊กโคล่า ป้องกันแชมป์รุ่นจูเนียร์ไลท์เวทสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) แพนแปซิฟิก ครั้งที่ 5 กับ ฮูลิโอ ดีลาบาเซส ผู้ท้าชิงชาวอินโดนีเซีย ในวันศุกร์ 18 มี.ค.นี้ ที่เวทีมวยชั่วคราวชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด ถนนพระราม 5 จ.นนทบุรี บริษัท เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น ดำเนินการถ่ายทอดสดทางทีวีช่อง 7สีเวลา 15.00-17.00 น. ดร.วิทูร กรุณา ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะประธานจัดการแข่งขัน เผยว่า การจัด ศึกนนทบุรีสะท้านโลกครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้นักชกไทยสร้างชื่อเสียงแก่ประเทศชาติด้านกีฬา เพราะมีสายเลือดจิตวิญาณของยอดนักสู้เช่นเดียวกับ นายขนมต้มบรมครูมวยไทย การฝึกศิลปะการต่อสู้ของคนไทยจึงอยู่ในสายเลือดซึ่งถือเป็นแบบอย่างให้เยาวชนหันมาสนใจการเล่นกีฬามวยกันมากยิ่งขึ้น นอกจาก นั้นยังเป็นการหารายได้สนับสนุนกิจกรรมของสภาวัฒนธรรมจังหวัดนนทบุรี และ ชมรมอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี ทั้งนี้นายประดิษฐ์ หัสดี รองประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวยืนยันด้วยว่า คณะกรรมการได้เตรียมความพร้อมทุกด้าน โดยเฉพาะสถานที่แข่งขันมีพื้นที่จอดรถกว่า 200 คันสามารถรองรับแฟนมวยจำนวนมาก ทางด้าน จิมมี่เอกรัฐ ไชยโชติช่วง โปรโมเตอร์ เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่นเผยว่า หลังจากป้องกันตำแหน่งครั้งที่ 4 ผ่านพ้นไปฟ้าใสก็เข้าค่ายเก็บตัวฟิตซ้อมอย่างต่อเนื่อง สภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแกร่งน้ำหนักตัวก็ไม่มีปัญหาอะไร ส่วน ดีลาบาเซส ผู้ท้าชิงจอมเก๋ารายนี้เป็น คู่ปรับเก่าของอดีตแชมป์โลก ฟ้าลั่น ศักดิ์กรีรินทร์ เมื่อคราวที่ทั้งคู่เจอกันในรุ่นฟลายเวทพิกัด 112 ปอนด์ก่อนขยับขึ้นมาเรื่อยๆชกทุกพิกัดตั้งแต่จูเนียร์แบนตั้มเวท,แบนตั้มเวท,จูเนียร์เฟเธอร์เวท,เฟเธอร์เวท และรุ่น จูเนียร์ไลท์เวท (130 ปอนด์) ในปัจจุบัน ถือว่าเป็นนักชกจอมเก๋าผ่านสังเวียนมาอย่างโชกโชน มีสถิติการชก 40 ครั้ง ชนะ 18 แพ้ 17 เสมอ 5 ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักชกต่างประเทศยอมปล่อยน้ำหนักตัวให้เป็นไปตามธรรมชาติด้วยการขยับรุ่นนขึ้นตามสภาพร่างกายที่เติบโตมากกว่านักชกไทยที่ส่วนใหญ่ยังคงชกอยู่ในพิกัดเดิม นับเป็นศึกซูเปอร์ไฟท์หน 3 แล้วที่เปลี่ยนรูปแบบมาจัดมวยยกทีมของเกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น ซึ่งครั้งนี้เป็นการโคจรมาพบกันระหว่างนักชกดาวรุ่งของไทยกับอินโดนีเซีย นอกจากฟ้าใสนักชกชาวไทยภูเขาจะป้องกันตำแหน่งรุ่นจูเนียร์ไลท์เวท IBF แพนแปซิฟิกกับผู้ท้าชิงประสบการณ์สูงแล้ว ยังมี วัชรกฤษ เสนาหาญ นักชกนักศึกษาระดับปริญญาโทพิสูจน์ฝีมือความแข็งแกร่งในรุ่นเฟเธอร์เวท (126 ปอนด์) กับ จอห์น พินเตอร์ อีกครั้ง และมวยสร้างในโครงการพลังกำปั้นไทยเพื่อไทยร่วมลับหมัดเต็มอัตราศึก..โปรโมเตอร์ จิมมี่-เอกรัฐกล่าวย้ำ |