เกียรติกรีรินทร์ ปี 2546
ในวงการมวยสากลของไทย องค์ประกอบสำคัญในการสร้างสรรค์และผลักดันนักชกไปสู่ฝั่งฝันจากดินสู่ดวงดาวจากเด็กบ้านนอกสู่แชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่คือ “โปรโมชั่นมวย” “โปรโมชั่นมวย” คือ ทีมงานจัดการแข่งขันที่ว่ากันตั้งแต่คัดเลือกนักมวยมาประกอบรายการ ประกบคู่มวย ติดต่อประสานงาน หาประธานจัด ดำเนินการถ่ายทอดสด หาโฆษณา เจรจาประสานงานต่างประเทศ ถือเป็นกลไกสำคัญที่จะกรุยทางให้นักชกประสบความสำเร็จ ว่ากันว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่นักมวยคนหนึ่งจะประสบความสำเร็จได้โดยไม่มีโปรโมชั่นมวยที่ดี วงการมวยสากลของไทยมีโปรโมชั่นมากมาย และที่อยากจะแนะนำให้รู้จักกันในวันนี้ถือเป็นทีมงานคุณภาพที่น่าจับตามองมากโปรโมชั่นหนึ่ง นั่นก็คือ “เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น” จากแรกเริ่มเดิมที่ ที่ “น้าเตี้ย” เกียรติชัย ไชยโชติช่วง อดีต บก.นิตยสารยอดนักสู้ที่ช่วยเหลือ ผู้การบรรจุ และ เป๋ โปสเตอร์ ในการจัด ฟ้าลั่น ศักดิ์กรีรินทร์ แชมป์โลกรุ่น 105 ปอนด์ IBF ชกแต่หลังจากที่ฟ้าลั่นแพ้เสียเข็มขัดแชมป์โลกทีมงานก็แตก แต่ “น้าเตี้ย” เห็นว่า ฟ้าลั่น ยังอายุน้อยมีโอกาส มีอนาคตอยู่จึงได้ขอมาจัดชกเองโดยได้รับความร่วมมือจาก สารวัตรกรีรินทร์ อินทร์แก้ว โดยช่วงแรกก็ยังมีเป๋โปสเตอร์ ช่วยดำเนินการถ่ายทอดสดอยู่ หลังผ่านไปสักระยะ “น้าเตี้ย” ก็เริ่มเข้ามาเต็มตัวและศึกแรกภายใต้ชื่อ “เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น” ก็เริ่มขึ้นเมื่อ 1 เม.ย. 2539 โดยเป็นการป้องกันแชมป์โลก WBF รุ่นฟลายเวทของฟ้าลั่นที่อำนาจเจริญโดยมี พ.ต.ท.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว เป็นโปรโมเตอร์ จากนั้น เกียรติกรีรินทร์ ก็เติบโตขึ้นมาตามลำดับทว่า พ.ต.อ.กรีรินทร์ อินทร์แก้ว ที่กำลังเจริญก้าวหน้าในอาชีพตำรวจมีงานมากขึ้นประกอบกับช่วงนั้น “จิมมี่” เอกรัตน์ ไชยโชติช่วง ลูกชายคนรองของ “น้าเตี้ย” จบการศึกษาพอดีจึงเข้ามาสานต่อหน้าที่โปรโมเตอร์ด้วยวัยเพียง 23 ปีเท่านั้น นับเป็นโปรโมเตอร์ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์มวยโลกของไทยเลยทีเดียว ศึกแรกที่จิมมี่รับงานคือการป้องกันแชมป์ WBF ของฟ้าลั่นเมื่อ 13 ก.ย. 2539 ซึ่งงานก็ลุล่วงด้วยดี จากนั้นชื่อของ “หนุ่มเอแบค” เริ่มเป็นที่คุ้นหูของแฟนมวยโลกของไทยมากขึ้นตามลำดับจิมมี่ เริ่มปั้นมวยจนเป็นแชมป์มากขึ้นจากเดิมที่มี ฟ้าลั่น กับ ฟ้าประกอบ รักเกียรติยิม ครองแชมป์ WBF อยู่ “จิมมี่” ก็จัดให้ ฟ้าสั่ง 3 เคแบตเตอรี่ และ ลิงลม พ.ธวัชชัย ชิงแชมป์ PABA ที่ จ.เชียงใหม่ และก็คว้าแชมป์สำเร็จ จวบจนปี 2544 เกียรติกรีรินทร์ ก็มีโอกาสส่งนักชกในสังกัดขึ้นแชมป์โลกสถาบันหลักจนได้ โดย ฟ้าลั่น ศักดิ์กรีรินทร์ ได้ชิงแชมป์โลก WBO รุ่น 108 ปอนด์ที่ว่างกับ แบนดี้ ทาบานาส ที่ลาสเวกัส เมื่อ 3 ก.พ. แต่น่าเสียดายที่ผลลงเอยด้วยการเสมอ แต่ถึงอย่างไรในอีก 7 เดือนต่อมา ฟ้าลั่นเดินทางไปสหรัฐอีกครั้งเพื่อชิงเข็มขัดเส้นเดิมแต่คราวนี้พบกับ เนลสัน เดี้ยปป้า ที่เอาชนะน็อก ทาบานาส คว้าแชมป์โลกมาครองและฟ้าลั่นก็อกหักอีกครั้งเมื่อ แพ้คะแนนไปอย่างน่าเสียดาย แม้จะพลาดแชมป์แต่เกียรติกรีรินทร์ ก็แสดงศักยภาพให้คนไทยได้เห็นว่ามีความสามารถพอที่จะผลักดันนักชกในสังกัดขึ้นชิงแชมปโลกสถาบันหลัก ทว่าในเดือน พ.ค. 2545 เสาหลักของเกียรติกรีรินทร์ อย่าง “น้าเตี้ย” ต้องมาจากไปอย่างไม่มีวันกลับ โปรโมเตอร์หนุ่มอย่างจิมมี่เศร้าเสียใจกับการสูญเสียครั้งใหญ่ในคราวนี้มาก แต่ด้วยความตั้งใจและปณิธานที่พ่อตั้งไว้ทำให้ ลูกฯของ “น้าเตี้ย” ทั้ง “จิมมี่” เอกรัตน์ , “จอช” รัตนชัย, “จอห์นนี่” คมสันต์ และ “เจอรี่” สรณะ 4 พี่น้องตระกูลไชยโชติช่วง และคนในทีมงานของ “เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น” ร่วมมือร่วมใจสานฝันของ “น้าเตี้ย” ที่ต้องการสร้างแชมป์โลกมาประดับวงการมวยโลกของไทยให้ได้ และโอกาสก็มาอีกครั้ง เมื่อ ฟ้าประกอบ รักเกียรติยิม ได้ขึ้นชิงแชมป์โลกรุ่น 122 ปอนด์ IBF กับ แมนนี่ ปาเกียว ที่ฟิลิปปินส์ เมื่อ 26 ต.ค. 2545 แต่ดูเหมือนว่าฟ้าไม่เป็นใจฟ้าประกอบแพ้น็อกเพียงยกแรกอย่างเหลือเชื่อ จิมมี่ และทีมงานท้อใจไม่น้อยแต่ความมุ่งมั่นยังไม่เปลี่ยนแปลงความฝันที่จะสร้างแชมป์โลกยังแจ่มชัดในใจของทีมงาน เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น ทุกคนคำพูดที่ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น” เป็นสิ่งที่คอยจุดประกายความตั้งมั่นในการทำงานของทุกคนอยู่ ก็ต้องมารอดูกันว่าความฝันของ “เกียรติกรีรินทร์ โปรโมชั่น” จะเป็นจริงในวันใด แฟนมวยโลกคงต้องมาเป็นกำลังใจให้ทีมงานคนรุ่นใหม่เหล่านี้กันเยอะๆ แล้วละครับ สุรเดช อภัยวงศ์.../เรื่อง หนังสือพิมพ์มวยสยามรายวัน วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2546 หน้า 19 |